Wednesday, October 24, 2007

บทความเรื่องปลาสลิด

สืบเนื่องจากเมื่อเช้าตรู่ของวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2550
ซึ่งตรงกับวันปิยมหาราช ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสืบเนื่องกันมานาน
ข้าพเจ้าถูก โรคบิด รุมทำร้ายอย่างไร้ซึ่งความปราณี
โดยหลังจากเดินทางไปพบแพทย์แล้ว
แทย์ได้ให้คำแนะนำมาว่า ในระยะนี้ ให้ทานอาหารอ่อนๆ อย่าเพิ่งทานมื้อหนักๆ
มารดาข้าพเจ้าจึงเลือกอาหารเช้ามื้อแรกให้ข้าพเจ้าเป็น

"ข้าวต้มกับปลาสลิด"

อันว่า ปลาสลิด เป็นอาหารที่ข้าพเจ้าและน้องสาวโปรดปรานกันมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์
ไม่ว่าจะทานกับข้าวต้มก็ดี ข้าวสวยก็ดี หรือข้าวเหนียวก็ดี
ล้วนแล้วแต่ยังความอร่อยคุ้นลิ้น อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนาน ไม่แพ้วันปิยมหาราชเลยทีเดียว

แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าไปทานปลาสลิด
ก็จะบังเกิดความสงสัยกระหายใคร่รู้อยู่ร่ำไป
ว่าหน้าตาของเจ้าปลาสลิดแสนอร่อยนั้นเป็นเยี่ยงไร
เนื่องจากข้าพเจ้ายังไม่เคยพบเห็นปลาสลิดตากแห้งตัวใดมีหัว
และคาดว่าการที่ปลาสลิดจะมีหัวนั้นก็มิได้ปรากฏในพงศาวดารไทย
เล่มไหนเป็นแน่แท้
ข้าพเจ้าเคยคิดไปถึงขั้นว่า
อาจจะเคยมีตำนานในสมัยพุทธกาล
เมื่อครั้งสัตว์ทั้งหลายสามารถพูดจาสื่อสาร ทำสิ่งอย่างสารพันเยี่ยงมนุษย์ทำได้
ปลาสลิดตัวหนึ่ง
ว่ายน้ำมาพบกษัตริย์องค์หนึ่งแห่งแคว้นมคธ
ผู้กำลังแหวกว่ายธาราในแม่น้ำสินธุเข้าโดยบังเอิญ
จึงเอื้อนเอ่ยปากถามกษัตริย์องค์นั้นเป็นวาจา ความว่า
"โอ้ว่า ท่านกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดไฉนเล่า ท่านจึงลดตัวลงมาแหวกว่ายในธารธาราเยี่ยงสามัญชนเช่นนี้"
กษัตริย์ นึกโมโหอยู่ในใจ แลขุ่นเคืองใจว่า เจ้าปลาสลิดตัวนี้ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก จึ่งตอบคำกลับไปว่า
"เจ้าปลาสลิดต่ำศักดิ์ ความเหิมเกริมของเจ้ามันช่างล้นหัวของเจ้ายิ่งนัก ข้าไม่สงสัยเลยแม้เพียงนิด
เนื่องว่าเจ้าดำรงชีวิตอยู่แต่ในชลธี คงมิมีใครสั่งสอนเจ้าเรื่องใดบังควร และเรื่องใดมิบังควรดุจกัน"
ปลาสลิด แม้จะมีความรู้น้อยนัก แต่กพอจะรับรู้ได้
ว่ากำลังโดนกษัตริย์องค์นี้ดูถูกเหยียดหยาม จึงตอบไปว่า
"แม้นจะมิเคยมีผู้ใดสั่งสอนข้าให้รู้จักในสิ่งที่ควรและมิบังควร แต่ท่านเอย โปรดจงรับรู้ไว้ด้วยเถิดว่า
ข้านั้นมีคุณประโยชน์แก่เหล่ามวลมนุษย์
แลตัวท่านเองมากเพียงใด
หากไม่มีข้าอยู่ในโลก ดาวเคราะห์ที่ท่านอาศัยอยู่นี้แล้วไซร้
จงตอบคำข้าสิว่า
ท่านจะทานข้าวต้ม ข้าวสวย แลข้าวเหนียวกับปลาใดเล่า
จึ่งอร่อยลิ้น กินเพลิน เยี่ยงกินกับปลาสลิดเช่นข้า"
ถ้อยวาจาของปลาสลิด ยิ่งเพิ่มพูดโทสะของกษัตริย์องค์นั้น
ให้มากขึ้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณ
"เหวย เหวย เจ้าปลาน้อย เจ้าจะลำพองใจมากเกินไปแล้ว
ถ้าเจ้าคิดว่าตัวเจ้านั้นมีรสชาดอร่อยล้ำ เกินกว่ามัจฉาตัวใดที่แหวกว่ายอยู่ในสายชลแล้วละก็
ข้าก็ใคร่ขอลองลิ้มชิมรสเจ้า
เพื่อจักเป็นเครื่องพิสูจน์ในวาจาอันยะโสของเจ้า"
ว่าความดังกล่าวแล้ว กษัตริย์องค์นั้นก็ได้สั่งให้ทหารจับปลาสลิดตัวนั้นมา แล้วรับสั่งว่า
ให้กุดหัวเจ้าปลาตัวนี้เสีย เพื่อเป็นการลงโทษให้สาสมกับความทะนงตนที่มันมี
จากนั้นให้นำไปเสียบประจาณไว้ที่ประตูเมือง
เวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์ ศพปลาสลิดตัวนั้นก็แห้งกรัง
กษัตริย์องค์นั้นเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังมิได้ลองลิ้ม ชิมรสปลาสลิดนั้นเลย
จึงให้แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ผู้เป็นซังกุงแห่งห้องเครื่อง
นำปลาสลิดตัวนั้นมาประกอบเป็นอาหาร
หลังจากได้เสวยภัตตาหารอันปรุงมาจากปลาสลิดแล้ว
ก็เกิดความปิติยินดีเป็นล้นพ้น
เนื่องด้วยความอร่อยของปลาสลิดนั้น ถูกพระทัยเป็นยิ่งนัก
จึงเป็นที่มาว่า ก่อนที่จะนำปลาสลิดมาทำอาหารนั้น
ต้องตัดหัวแล้วนำไปตากแห้งก่อนทุกครั้ง
แต่แล้วมารดาข้าพเจ้า
ก็เข้ามาทำลายจินตการวาดฝันของข้าพเจ้าไปโดยสิ้น
ด้วยการเตือนสติ และให้ความรู้ว่า
ที่เขาต้องเอาหัวมันออกนั้น ก็เนื่องด้วย
ในการตากแห้งนั้น หัวปลาจะเป็นส่วนที่แห้งยาก และจะทำให้ปลาเน่า
จึงต้องเอาหัวมันออกก่อน
อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้าก็ยังใคร่อยากเห็น หัวปลาสลิดอยู่ดี
จึงได้ทำการค้นหารูปภาพปลาสลิดในขณะที่ยังมีหัวอยู่เหนือครีบ
เมื่อพบแล้วจึงนำมาให้ทุกท่านได้เห็นกัน ดังนี้





Wednesday, October 10, 2007

Hi 5 : สวัสดีฮ่ะ

อารัมภบท : Hi5 คืออะไร?
Hi5.com เป็นเวบไซต์ที่ให้ผู้ใช้บริการมาฝาก profile ของตัวเอง คล้ายๆกับ blog เนี่ยแหละ แต่ว่าคนไม่ค่อยไปเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวในนั้นซะเท่าไหร่ จะเน้นที่ตกแต่งหน้าตา profile เราให้สวยงาม ดึงดูดคนมาเข้า แต่จุดเด่นของมันอยู่ที่ ระบบ network ที่เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือบังเอิญเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือเพื่อนของเพื่อน กิ้กเก่า แฟนเก่า .. แต่อีกหลายคนก็สมัครไปงั้นๆไม่ได้อะไรมากเพราะได้รับอีเมลชวนมาเล่น hi5 จากเพื่อน ...
------------------------------------------------------------------------------
หรืออีกนัยหนึ่ง
Hi5.com เป็นเวบไซต์เป็นที่ผู้ใช้บริการมาฝาก profile ของตัวเอง โดยคนไม่ค่อยไปเขียนอะไรในนั้นเท่าไหร่ โดยส่วนมากจะเน้นไปที่การโพสรูปลวงโลก เป็นรูปที่ถ่ายออกมาแล้วดูดี พูดอีกอย่างก็คือ รูปที่มีโอกาสเกิดขึ้น 1 ใน 180 รูปที่ถ่าย เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาแอด และคอมเม้นอะไรต่างๆนานา บ้างอาจจะมีจุดประสงค์เกินเลยไปกว่านั้น คือหวังจะหาคู่จากเวบไซต์นี้ ซึ่งตรงกับจุดเด่นของเวบไซต์ ที่มีดีตรงระบบ network แต่อีกหลายคนก็สมัครไว้งั้นๆไม่ได้อะไรมาก เพราะต้องการจะเอาไว้แส่เข้าไปอ่านโปรไฟล์และดูรูปชาวบ้านเพียงเท่านั้น

************************************************
Hi5 (แปลเป็นไทยตามแบบฉบับเจ้าของบล๊อกว่า สวัสดีฮ่ะ)
เป็นเวบไซต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรุนแรงในปัจจุบันนี้
ใครไม่มีโปรไฟล์ไฮ5เป็นตัวเป็นตนละก็ถือว่าเชยแหลก
(บ้านน๊อกกกกกกก ... บ้านนอก)
จากกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสยามประเทศของเรานั้น
ทำให้ใครต่อใคร ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดง ตาสีตาสา ยายมียายมา หรือแม้กระทั่งองค์ .... ก็มี ไฮ5
การเล่นไฮ 5 ให้ประสบความสำเร็จนั้นมิใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก
เราควรจะเริ่มต้นจาก รูปที่ใช้เป็นโปรไฟล์ พิคเจอร์
คุณสมบัติที่ดีของรูปโปรไฟล์ พิคเจอร์ ก็คือ
1. ควรเป็นรูปตัวเอง ไม่ใช่รูปดารา หรือรูปวิว โดยเฉพาะพวกสิงสาราสัตว์นั้น ไม่ควรอย่างยิ่ง
(โปรไฟล์อีบิ๊ก)
2. ควรเป็นรูปเดี่ยว อย่าคิดว่าการใช้รูปถ่ายคู่กับเพื่อนที่หน้าตาดูดีจะเป็นการดึงดูดมากขึ้น
ตัวอย่าง : http://prettyproperty.hi5.com (ของอีป้อ)
3. รูปที่ใช้ควรเป็นรูปเพื่อการโฆษณาเท่านั้น ตัวจริงจะเป็นอย่างไรอย่าไปสน
ตัวอย่าง : http://dojoboy.hi5.com (ของกูเอง)
4. ไม่ควรใช้รูปที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสามากเกินไป เพราะจะดูกะหรี่
ตัวอย่าง : http://natklinmalee.hi5.com (ของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร)
เมื่อเริ่มต้นด้วยรูปโปรไฟล์ พิคเจอร์ที่ดีแล้วก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่ง
ต่อจากนั้นให้เราเริ่มจากการแอดเพื่อนที่เรารู้จักอยู่แล้วก่อน
จงจำเอาไว้ว่า วิธีที่เราจะขยายขอบเขตคนที่เรารู้จักให้มากขึ้นนั้น เราควรจะเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน
ยิ่งมีเพื่อนที่เรารู้จักแล้วเข้ามาในลิสมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นก็ย่อมหมายความว่า
เราจะยิ่งได้รู้จักเพื่อนของเพื่อนของเรามากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเริ่มที่จะแอดผู้อื่นเข้ามาในลิสของตน ก็ควรจะเริ่มเรียนรู้การคัดเลือกคนที่จะแอดด้วย
หากท่านเป็นสตรีเพศ ควรจะสังเกตสังกาดูให้ถ้วนถี่มากกว่าสรรพบุรุษ มากขึ้นไปอีก
บางคนแม้ในรูปจะดูสูงล่ำ กำยำ เป็นสุภาพบุรุษมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้า Sexual Orientation ระบุเอาไว้ว่า Gay/I will tell you later ก็ไม่สมควรที่จะกดแอดเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะโดนด่าลับหลังได้ว่า อีชะนีไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้ต่ำรู้สูง
แต่อย่างไรก็ดี บางคนที่ระบุเอาไว้ว่า Straight ก็ยังไม่สามารถฟันธงลงไปได้ว่าจะแมนจริง
เพราะอาจเกิดจากความโง่ หรือ ยังไม่อยากเปิดเผยตัวเองมากไปนักก็ได้
ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน เผลอไม่ได้ ต้องเล่นเพื่อนอยู่เป็นประจำ
อันนี้ให้เราสังเกตจาก ข้อความที่เพื่อนๆของเขาเข้ามาคอมเม้นท์ หรือ เพื่อนบนท๊อปเฟรนด์ และ คนที่เขารับแอดมา ก็อาจจะช่วยได้
แต่จากการวิเคราะห์ของผู้เขียนแล้ว
มนุษย์เพศชายที่เล่นไฮ5 นั้น เป็นชายแท้ซัก 20 เปอเซนต์
ผู้ชายส่วนมากคงไม่นิยมจะมานั่งอัพโหลดรูปภาพ หรือเข้ามาคอมเม้นท์ อะไรมากมายนักหรอก
(จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนแปลเวบนี้เป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีฮ่ะ" )
การเข้าไปคอมเม้นในโปรไฟล์ ในแกลลอรี่ หรือการให้ไฟว์นั้น (trade five) ก็เป็นเรื่องสำคัญ
จะทำให้เราเห็นว่าเราสนใจเค้าคนนั้นอยู่นะ ข้อควรจำอีกประการหนึ่งก็คือ
ถ้าเราอยากจะทำความรู้จักกับใคร เราก็ควรมีไมตรีจิตที่ดีต่อเขาคนนั้นก่อน
การ keep in touch โดย drop by to say something จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ
อนึ่ง
ข้อความในการนำไปคอมเม้นท์ที่ดี ควรมีคุณลักษณะดังนี้
1. หากเป็นการเข้าไปคอมเม้นท์ครั้งแรกควรจะเริ่มจากการขอบคุณที่เขาอุตส่าห์รับรีเควสของเรา ทั้งๆที่หน้าเราจะเงือกมากขนาดไหนก็ตาม
2. ควรลงท้ายด้วยคำถาม หรืออะไรก็ตาม ที่เขาจะสามารถตอบกลับเราได้ เพื่อดูว่าเขาคนนั้นมีท่าทีต่อเราบ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีวี่แววว่าเขาจะตอบกลับมา ก็ไม่ควรทู่ซี่เข้าไปเม้นท์นู่นนี่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รังแต่จะก่อให้เกิดความรำคาญต่อเขาคนนั้น จนถึงขั้นแอบนั่งด่าพ่อล่อแม่ของคุณอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็เป็นได้
3. ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งอาจเป็นบ่อเกิดแห่งความหมั่นไส้ได้ ดังนั้นการคอมเม้นท์คนอื่นด้วยสไลด์ที่มีแต่รูปตัวเองล้วนๆโดยไม่ได้สื่อความใดๆ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรูปที่อาจปลุกอารมณ์ทางเพศ (ของสัตว์เลี้ยงทางบ้านของผู้ถูกคอมเม้นท์)
4. พวกข้อความฟอร์เวิร์ดทั้งหลาย ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนว่า มีความยาวเกินไปหรือไม่ เพราะนอกจากจะขี้เกียจอ่านแล้ว จะทำให้โปรไฟล์ออกมาไม่สวยงาม
5. พวกเพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเพราะพริ้งกินใจ หรือจะซึ้งเข้าไขสันหลังขนาดไหน ก็เป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะในโปรไฟล์ที่เจ้าของได้ลงเพลงเอาไว้อยู่แล้ว เพราะจะทำให้เพลงตีกันไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้ความ
จากเคล็ดไม่ลับที่ผู้เขียนให้ไปทั้งหมดนี้
ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกนักอ่านบล๊อก จะกลับไปพัฒนา โปรไฟล์ของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ส่วนใครที่ยังไม่มีก็พิจารณาตัวเองได้แล้วนะ (อีดอก)
สุดท้ายนี้
ขอให้ทุกคนจงประสบความสำเร็จ ลุล่วงจุดประสงค์ในการเล่นไฮ5 ทุกคนด้วยเทอญ

Wednesday, October 3, 2007

ของฝากจากระยอง

ปฐมบทแห่งการเดินทาง
เค้าว่ากันว่า
การที่คนจะไปทะเลนั้นมีอยู่ 2 เหตุผลด้วยกัน ก็คือ
"ไม่หนีร้อน ก็ หนีรัก"

การไปทะเลของเราครั้งนี้ก็มีทั้งกลุ่มคนที่หนีร้อนและหนีรัก

กลุ่มคนที่หนีรัก คือ น. หรือ ฟ.ร. หรือ น.ย หรือ เจ๊ ส.
(ทั้งหมดคือคนเดียวกัน)
ส่วนกลุ่มคนหนีร้อน (ข้อสอบร้อนๆ) ก็คือ ทั้งหมดที่เหลือนั่นเอง

ออกเดินทางตอนประมาณ 5 โมงเย็นของวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม
(หลังจากรู้ว่าจะไปเที่ยวกันกลางดึกคืนวันอาทิตย์)
ด้วยรถทัวร์ของบริษัทระยองทัวร์ ณ เอกมัย
***********************************
ราตรีอันแสนสั้น
ไปถึงระยองก็ดึกแล้ว
เอย เจ้าบ้านผู้น่ารัก มารับพวกเราไปกินข้าวกันที่ สถานโต้รุ่งประจำจังหวัด

อิ่มหนำสำราญ พุงป่องกันเรียบร้อยแล้ว
ก็มุ่งหน้าสู่ที่พักอันน่ารัก ชื่อว่าบ้านปูลม
คืนแรกไม่มีอะไร
ไปถึงก็ไปนั่งชิวๆกันริมทะเล
แล้วก็เข้านอนพักผ่อนเอาแรงกันในวันพรุ่ง

*************************************

เช้าตรู่ของวันที่ 2 ณ จังหวัดระยอง ริมชายหาดแม่รำพึง
เราตื่นกันแต่เช้า
ซึ่งถ้าปกติอยู่ที่ กทม คงยังนอนอุตุ หรือไม่ก็เพิ่งเข้านอนกันอยู่
เพื่อไปกินอาหารเช้ากัน
(ผัดไทอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก+++)
จากนั้นก็ลงชายหาดชักภาพกันอย่างร่าเริง




----------------------------------------------------
ตัดภาพไปที่ผู้หนีรัก
โลกนี่มันช่างว่างเปล่าเดียวดาย จะมีซักคนมั้ยนะมาเข้าใจเรา

--------------------------------------------------
ความสุขอันจำกัดบนเกาะเสม็ด
หลังจากถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว
ก็ได้เวลาเดินทางไปบ้านเพ
ซึ่งเป็นท่าเรือที่จะพาเราไปสู่เกาะเสม็ด
ที่เค้าว่าใครไปต้องเสร็จทุกราย
ไปถึงท่าเรือตอน 11 โมงเช้า
เพื่อรอ เปี่ยม ตุ๊ดผู้มาทีหลัง
จนกระทั่งเวลาคล้อยไป บ่าย 2 กว่า
เปี่ยมก็ปรากฏตัวให้พวกเราได้เห็น
ไม่รอช้า
พวกเรารีบไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นเรือ
แต่เนื่องจากเรือต้องรอให้มีคนครบ 20 คนซะก่อน เรือถึงจะออก
พวกเราจึงต้องรอเรืออีกประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ
รวมกับเวลาเดินทางสู่เกาะเสม็ดอีกประมาณ 40 นาที
เราจึงไปถึงเกาะเกือบ 4 โมงเย็นแล้ว
เมื่อถึงเกาะก็ต้องต่อรถกระบะเข้าไปยังชายหาด
หลังจากบุกบั่นกับเส้นทาง off road ที่แสนจะทรหด
ก้นกระแทกเบาะจนแทบระบม

เราก็มาถึงหาดทรายแก้ว
ที่ทรายเป็นสีขาวจนดูเหมือนเป็นของปลอม
เนื่องจากเวลามีน้อย เราจึงต้องใช้สอยอย่างประหยัด
ลงเล่นน้ำกันสนุกสนาน


------------------------------------------------

แต่สำหรับคนที่กำลังหนีรักแล้ว
บรรยากาศของเกาะเสม็ดก็ยิ่งทำให้รู้สึกเศร้าสร้อยลงไปอีก


----------------------------------------------------
พอ 6 โมงก็ต้องถึงเวลาจากเกาะเสม็ดไปด้วยใจอาวรณ์ .. กระซิกกระซิก
*************************************
กินอย่างราชาในราคามิตรภาพ
ค่ำคืนนั้นพวกเราได้ไปซื้ออาหารทะเลสดๆมาปิ้งกินกันอย่างมีความสุข
กุ้งตัวโตๆ 3 โล
ปลาหมึก 2 โล
ปลาซาบะ 5 ตัว
หมดไปในเวลาไม่นาน
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว
ก็มีการนั่งดริ๊งกันเล็กน้อย
แต่ด้วยความอิ่มและความเหน็ดเหนื่อย
พวกเราจึงเข้านอนกันอย่างรวดเร็ว
********************************
อำลา

เช้าวันสุดท้าย
หลังจากกินอาหารเช้ากันที่เดิม
ก็ต่อรถเพื่อไปยัง อควอเรียมของจังหวัด
ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของทริปนี้
จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพเมืองฟ้าอมร แต่ไม่มีทะเล


ปัจฉิมลิขิต

1. ขอบคุณ เจ๊เอย นะจ๊ะ

2. ติดตามชมรูปสวยๆจากทริปนี้ได้ที่ http://www.hi5.com/friend/photos/displayMyPhoto.do?albumId=112870038&ownerId=43293942&currentIndex=0